ไรฝุ่นบนเตียงทำให้คุณป่วยหรือไม่?
คุณรู้ไหมว่าเตียงที่คุณล้มลงในแต่ละคืน สถานที่ที่ควรเป็นที่พึ่งของคุณหลังจากเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน อาจทำให้คุณและครอบครัวป่วยได้
ถึงเวลาโยนผ้าคลุมสำหรับสาเหตุทั่วไปของการแพ้ที่มักเกิดขึ้นบนเตียงของคุณ นั่นก็คือไรฝุ่น
แมงมุมที่สัมพันธ์กันด้วยกล้องจุลทรรศน์เหล่านี้ เป็นสาเหตุหลักของอาการแพ้และอาการหอบหืด พวกมันอาจดูไม่เป็นอันตรายเพียงพอ โดยกินเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วของคนและสัตว์เลี้ยงโดยมองไม่เห็น แต่พวกมันไม่ได้เป็นอะไรเลย
ปัญหาอยู่ที่มูล มูลไรฝุ่นมีสารก่อภูมิแพ้ที่เป็นโปรตีน ที่มีศักยภาพซึ่งสามารถกระตุ้นให้เกิดอาการภูมิแพ้ เช่น กลาก โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ และโรคหอบหืด
เมื่อใดก็ตามที่คุณมีเฟอร์นิเจอร์นุ่มๆ ในบ้าน เช่น พรม โซฟา ผ้าม่าน เตียงนอน คุณจะพบกับอาณานิคมไรฝุ่น แต่ในปัจจุบัน ไรฝุ่นและของเสียที่มีความเข้มข้นสูงสุดสามารถพบได้บนเตียง ซึ่งเราใช้เวลาประมาณหนึ่งในสามของวัน
ไรฝุ่นต้องการความอบอุ่น ความชื้น และเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และเตียงของเราก็ตอบโจทย์ทุกประการ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมที่นอนโดยเฉลี่ยจึงสามารถกักเก็บไรฝุ่นได้ตั้งแต่ 100,000 ถึง 10 ล้านตัว ในขณะที่ 10 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักหมอนอายุ 2 ปีนั้นประกอบด้วยไรฝุ่นและของเสียจากพวกมัน
เคล็ดลับ 10 ข้อในการลดอาการแพ้ก่อนนอนขั้นตอนแรกในการจัดการกับอาการภูมิแพ้คือการหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น ปฏิบัติตามเคล็ดลับ 10 ข้อเหล่านี้เพื่อลดอาการของคุณลงอย่างมากโดยการลดการสัมผัสไรฝุ่น
- ในการต่อสู้กับไรฝุ่น หนึ่งในอาวุธที่ง่ายและมีประสิทธิภาพมากที่สุดคือผ้ารองกันเปื้อนที่นอน เพื่อกันไรฝุ่น ผ้ารองกันไรฝุ่นจะต้องถักทอให้แน่นพอที่จะกันน้ำได้ เช่น กลุ่มผลิตภัณฑ์ Protect-A-Bed ซึ่งเป็นเกราะป้องกันไรฝุ่นในขณะที่ยังคงระบายอากาศได้ และอย่าลืม หมอนกันไรฝุ่น ห่อหมอนด้วยผ้ากันไรฝุ่นแบบมีซิป เพื่อไม่ให้คุณหายใจเอามูลไรฝุ่นเข้าไปทั้งคืน
- ดูดฝุ่นที่นอนเดือนละครั้งเพื่อกำจัดไรโดยใช้เครื่องดูดฝุ่นที่มีแผ่นกรอง HEPA ที่ดี หรือคุณสามารถลงทุนซื้อโครงที่นอนแบบครบวงจร ซึ่งหุ้มที่นอนทั้งหมดด้วยระบบซิปสามด้านที่เจาะเข้าไปไม่ได้
- ดูดฝุ่นพรมห้องนอนและฐานเตียงบ่อยๆ รอสองสามชั่วโมงก่อนกลับเข้าไปในห้องเพื่อให้ฝุ่นที่ลอยอยู่ในอากาศจางหายไป
- ซักผ้าปูที่นอนทุกสัปดาห์ด้วยการซักด้วยน้ำร้อน (มากกว่า 55 องศา) ซักผ้านวมด้านในและหมอนเดือนละครั้ง (หากคุณใช้ผ้ารองกันเปื้อนหมอน คุณจะต้องซักหมอนปีละครั้งเท่านั้น) ล้างผ้ารองกันเปื้อนที่นอนด้วยการซักด้วยน้ำร้อนทุกๆ 4-6 สัปดาห์เพื่อขจัดเหงื่อที่ซึมซับและเซลล์ผิวที่ตายแล้วออก
- ล้างของเล่นนุ่มๆ บ่อยๆ ด้วยน้ำร้อน ใส่สิ่งที่ไม่สามารถล้างด้วยน้ำร้อนลงในช่องแช่แข็งเป็นเวลา 24 ชั่วโมงเพื่อฆ่าไร จากนั้นล้างในน้ำเย็นเพื่อกำจัดฝุ่น
- เนื่องจากตัวไรชอบสภาพแวดล้อมที่ชื้น ให้ดึงผ้าคลุมกลับทุกเช้าเพื่อให้เตียงของคุณแห้งก่อนที่จะลงมือทำ ไส้หมอนและผ้านวมใยสังเคราะห์ เอื้อต่อไรฝุ่นได้น้อยกว่าไส้ขนนกและขนอ่อน
- ในกรณีที่เกิดอาการแพ้อย่างรุนแรง ให้เปลี่ยนพรมเป็นพื้นแข็ง และเปลี่ยนผ้าม่านเป็นมู่ลี่ ถูพื้นทุกวัน และเช็ดมู่ลี่ด้วยผ้าหมาด
- ตัดเรื่องยุ่งๆ ออก ที่ใดมีฝุ่น ย่อมมีไรฝุ่น ดังนั้นจงกำจัดเศษเล็กเศษน้อยและความยุ่งเหยิงที่สะสมฝุ่นออกไป เมื่อคุณปัดฝุ่นในห้อง ให้ใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่นฟุ้งกระจายในอากาศ